หัวหน้างาน :
หัวหน้างาน จะเน้นการกระจายอำนาจ ไม่เน้นการควบคุมและการบังคับบัญชา การตัดสินใจจะมาจากทีมงาน หัวหน้ามีหน้าที่สร้างให้ลูกน้องมีความพึงพอใจในการทำงานและลูกน้องก็ต้องอุทิศตนทำงานให้องค์กรอย่างเต็มที่ พร้อมกับการพัฒนาความสามารถของพนักงานอย่างต่อเนื่อง
หัวหน้างานจะใช้การสื่อสารอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้ลูกน้องมีความเข้าใจในทิศทางหรือเป้าหมายขององค์กร โดยเริ่มจาก Why ทำไมเราต้องทำและตามด้วย What เราจะทำอย่างไร หัวหน้างานต้องกระตุ้นให้ลูกน้องได้กำหนด Goal หรือเป้าหมายด้วยตนเอง และใช้การ feedback หรือการให้ข้อมูลป้อนกลับอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้หัวหน้างานยังจะต้องสร้างบรรยากาศในการทำงานที่เอื้อให้ลูกน้องทุกคนได้คิด ลูกน้องรู้สึกปลอดภัย กล้าที่จะพูด กล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่หรือนวัตกรรม
ต้องทำให้ทุกคนรู้สึก awesome รู้สึกเยี่ยม รู้สึก great รู้สึกยิ่งใหญ่ อยากจะมาทำงานในทุกวัน เพราะเขาเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของทีมงาน บางครั้งหัวหน้างานก็ต้องเปิดโอกาสให้ลูกน้องได้ใช้เวลางานบางส่วน เช่น 20% ไปทำงานอื่น คิดงานอื่นบ้างนอกเหนือจากงานประจำ เพื่อคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
สุดท้ายแล้วหัวหน้าต้องรักษาความยุติธรรม fairness ให้เกิดขึ้น กรณีที่ต้องติดสินใจหรือแก้ปัญหาความขัดแย้งของทีม
สมาชิกในทีม :
สมาชิกในทีมต้องปรับพฤติกรรมการทำงาน ต้องทำงานเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน โดยเอาความต้องการของทีมเป็นตัวตั้งมากกว่าความต้องการส่วนบุคคล ต้องสามารถจัดการและบริหารทีมด้วยตนเองได้ หรือเรียกว่า Self-Organization ทุกคนมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อเพื่อนร่วมงานมากกว่ารับผิดชอบต่อหัวหน้างาน ทุกคนสามารถเลือกผู้นำทีมได้และเลือกแบบโปร่งใส ทำงานก็แบบโปร่งใส่ที่เน้นการพูดคุยสนทนาแบบ open สมาชิกในทีมจะมีความรู้ความสามารถแบบ T-Shape คือรู้รอบด้านอย่างกว้างๆแต่จะเก่งเชิงลึกในบางเรื่องที่เป็นเรื่องเฉพาะ ซึ่งจะเสริมศักยภาพของทีมงานซึ่งกันและกัน
ทั้งหัวหน้างานและสมาชิกในทีมต้องร่วมกันสร้าง Trust ความไว้วางใจ สร้าง Respect การให้เกียรติซึ่งกันและกัน ตลอดจน Empathy แสดงความเห็นอกเห็นใจ ต่อสมาชิกทุกคนในทีมงานด้วย